29 November 2024
8 โครงสร้างพื้นฐาน ระบบ IP-PBX หรือ PBX System สำหรับโรงแรม
การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานทั้ง 8 ข้อนี้จะช่วยให้ระบบ IP-PBX ในโรงแรมทำงานได้อย่างราบรื่นและรองรับการขยายตัวในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ มีอะไรบ้าง
1. ระบบเครือข่ายพื้นฐาน (Network Infrastructure)
- LAN (Local Area Network) :
- ควรใช้ Cat5e, Cat6 หรือสูงกว่า สำหรับความเร็วและความเสถียรในการส่งข้อมูล
- สายสัญญาณต้องเดินสายครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เช่น ห้องพัก, สำนักงาน, และพื้นที่สาธารณะ
- Switch Network :
- ต้องใช้ Switch แบบ Managed ที่รองรับ QoS (Quality of Service) สำหรับ VoIP
- ความเร็วขั้นต่ำ 1 Gbps เพื่อรองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
- Router และ Firewall :
- Router ควรมีคุณสมบัติรองรับ VoIP และ VPN
- Firewall ควรมีการตั้งค่าเพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอก เช่น SYN Flood หรือ DDoS
2. อุปกรณ์โทรศัพท์ (Telephony Devices)
- IP Phone สำหรับพนักงาน : พนักงานที่แผนกต้อนรับ, Call Center, และแผนกอื่นๆ อาจใช้โทรศัพท์ IP ที่มีฟังก์ชันพื้นฐานถึงขั้นสูง
- โทรศัพท์ในห้องพัก : อาจใช้ Analog Phone เชื่อมต่อผ่าน ATA (Analog Telephone Adapter) หรือ IP Phone หากโรงแรมต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น เช่น การเชื่อมต่อกับระบบจัดการห้องพัก
- Softphone : พนักงานที่ใช้งานมือถือหรือคอมพิวเตอร์สามารถใช้แอปพลิเคชัน Softphone เพื่อรับสาย/โทรออก
3. เซิร์ฟเวอร์ (Server)
- PBX Server :
- ใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับติดตั้งระบบ IP-PBX เช่น UCMxxx, Asterisk, 3CX, หรือ FreePBX
- สเปกขั้นต่ำ
>> CPU: 4 Core
>> RAM: 8 GB หรือมากกว่า
>> Storage: SSD ขนาด 500 GB หรือมากกว่า
- สามารถเลือกใช้ระบบ Cloud PBX ได้ หากต้องการลดภาระการดูแลเซิร์ฟเวอร์
4. ระบบสำรอง (Redundancy & Backup)
- UPS (Uninterruptible Power Supply) : สำรองไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์, Switch, และอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อให้ระบบโทรศัพท์ไม่ล่มเมื่อไฟดับ
- Failover System : ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์สำรองหรือเกตเวย์ PSTN (Public Switched Telephone Network) เพื่อรองรับในกรณีที่ระบบ IP-PBX มีปัญหา
5. อุปกรณ์เพิ่มเติม
- VoIP Gateway : หากโรงแรมยังมีการใช้ระบบโทรศัพท์เดิม (Analog) หรือโทรออกผ่าน PSTN จำเป็นต้องมีเกตเวย์ VoIP เพื่อแปลงสัญญาณ
- Access Point (Wi-Fi) : สำหรับพนักงานหรือ Softphone ในพื้นที่ที่ไม่มีสายโทรศัพท์
6. การตั้งค่าระบบและฟีเจอร์เฉพาะของโรงแรม
- การตั้งหมายเลขภายใน : ห้องพักทุกห้องจะมีหมายเลขเฉพาะที่สามารถโทรหากันภายในและติดต่อแผนกต่างๆ เช่น Front Desk, Room Service
- ระบบ IVR (Interactive Voice Response) : ใช้สำหรับการตอบรับอัตโนมัติ เช่น การแจ้งข้อมูลหรือบริการที่สามารถเลือกเมนูได้
- ระบบเชื่อมต่อกับ PMS (Property Management System) : เพื่อซิงค์ข้อมูลห้องพัก เช่น เช็คอิน-เช็คเอาท์ หรือการคิดค่าบริการโทรศัพท์เข้าบิลลูกค้า
7. อินเทอร์เน็ตและแบนด์วิธ (Internet & Bandwidth)
- Dedicated Internet : เครือข่ายควรแยกสำหรับ VoIP เพื่อความเสถียรของเสียงและป้องกันปัญหาสายหลุด
- Bandwidth : คำนวณแบนด์วิธที่เพียงพอสำหรับจำนวนสายที่ใช้งานพร้อมกัน (โดยทั่วไปสาย VoIP ใช้ประมาณ 50-100 Kbps ขึ้นไป ต่อสาย)
8. ทีมสนับสนุนและการดูแลระบบ
- ทีม IT หรือผู้ให้บริการภายนอก : ต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระบบตั้งแต่การติดตั้งจนถึงการบำรุงรักษา
- บริการจากผู้ให้บริการ : เลือกผู้ให้บริการที่มีการสนับสนุน 24/7
------------------------------------------------------
การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบ IP-PBX ของโรงแรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนระบบเพื่อลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
| | ทำงานอยู่ในสายงาน ระบบไอที โครงข่ายระบบสื่อสาร ระบบทีวีรวมศูนย์ และจอประชาสัมพันธ์ สำหรับธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท โรงพยาบาล คอนโด อพาร์ทเมนท์ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ต้องการแบ่งปันความรู้ เพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้ธุรกิจบริการ เป็นเซลล์ และที่ปรึกษามีประสบการณ์อบรมและให้คำปรึกษากับองค์กรต่างๆ ทั้ง SMEs และองค์กรมหาชน Editor : Cholchaya.T |