การทำงาน Hybrid Working ของออฟฟิศสมัยใหม่ ก็ต้องมีระบบที่รองรับการประชุมทางไกล
เพื่อให้การทำงาน Hybrid Working ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ระบบการประชุมทางไกล หรือ Video Conferencing System จึงมีบทบาทสำคัญมาก
ซึ่งระบบนี้จำเป็นต้องรองรับฟีเจอร์ หรือ (คุณสมับติ) ที่สำคัญหลายอย่าง เช่น
คุณภาพของเสียงและภาพที่คมชัด : การประชุมทางไกลที่ชัดเจน ช่วยลดการสื่อสารที่ผิดพลาด และทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมได้ดีขึ้น
การเชื่อมต่อที่เสถียร : ระบบควรสามารถทำงานบนเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาการเชื่อมต่อหลุดหรือความล่าช้าของภาพและเสียง ทำให้การประชุมสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่น
ฟีเจอร์สำหรับการประชุมที่หลากหลาย : เช่น การแชร์หน้าจอ การบันทึกการประชุม และการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ที่ช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพและสามารถตรวจสอบเนื้อหาย้อนหลังได้
ความปลอดภัยของข้อมูล : เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะการประชุมที่มีเนื้อหาสำคัญ จำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูล และการควบคุมสิทธิ์การเข้าร่วมประชุมความยืดหยุ่นในการใช้งาน ระบบควรรองรับอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าร่วมประชุมได้ทุกที่ทุกเวลา
เมื่อมีองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการประชุมแบบ Hybrid Working สำหรับออฟฟิศของคนรุ่นใหม่ครบเเล้ว สิ่งที่องค์กรจะได้รับก็คือ
ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง ทำให้พนักงานสามารถประชุมได้ทุกที่ ซึ่งส่งผลดีต่อความยืดหยุ่นและลดความเครียดจากการเดินทาง
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม แม้ว่าพนักงานจะอยู่ต่างสถานที่ แต่ก็ยังสามารถประชุมและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างการสื่อสารที่ต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้พนักงานยังคงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมและองค์กร
สนับสนุนการทำงานแบบยืดหยุ่น ทำให้พนักงานสามารถปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ออฟฟิศสมัยใหม่ที่ต้องการรองรับ Hybrid Working จำเป็นต้องลงทุนในระบบการประชุมทางไกลที่ครบวงจรและมีคุณภาพสูง การสื่อจากทั้งภาพและเสียง แน่นอนว่าต้องมีประสิทธิภาพ ได้รับสารที่ถูกต้องแม่นยำ ทั้งต้นทาง ถึงปลายทาง เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของการทำงานในยุคดิจิทัล
 | @kupmaxap Editor : Apisit Srisilarak |
